สถานการณ์โลกและวิถีการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในหลากหลายมิติ เครือเจริญโภคภัณฑ์ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการเตรียมรับมือกับปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น จึงได้บัญญัติค่านิยมองค์กรเพื่อให้บุคลากรใช้ยึดมั่นเป็นหลักในการปฏิบัติภารกิจหน้าที่ จากวิถีการทำงานกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กร ด้วยตระหนักว่า องค์กรที่มีความยืดหยุ่นและพร้อมที่จะปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับทุกวิกฤตการณ์โด้อย่างรวดเร็วเท่านั้น จึงจะสามารถนำพาธุรกิจสู่เป้าหมายความสำเร็จที่ยั่งยืนได้ และบุคลากรเครือเจริญโภคภัณฑ์ คือ หัวใจสำคัญที่จะนำเอาแก่นแท้ค่านิยมมาบูรณาการ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนองค์กรให้สามารถก้าวทันโลกอนาคตได้อย่างมั่นคงยั่งยืน

ในขณะที่หลายภาคส่วนต่างแสดงความกังวลถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: Al) จะเข้ามามีบทบาทแทนที่มนุษย์ แต่แท้จริงแล้วความล้ำสมัยเหล่านี้ ล้วนเป็นความฉลาดที่เกิดจากการประดิษฐ์คิดค้นของมนุษย์ทั้งสิ้นเครือเจริญโภคภัณฑ์เล็งเห็นถึงความสำคัญในการลงทุนเพื่อพัฒนาบุคลากร ตลอดจนได้เตรียมพร้อมรับมือกับวิกฤตการณ์ขาดแคลนแรงงานที่คาดว่าอาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ด้วยการฝึกทักษะฝีมือแรงงาน จัดการอบรมหลักสูตรความรู้คู่คุณธรรมให้แก่เถ้าแก่น้อย เถ้าแกใหญ่ จนถึงระดับบริหาร ผ่านสถาบันผู้นำเครือเจริญโภคภัณฑ์ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ฯลฯ โดยให้ความสำคัญกับบุคลากรในทุกระดับอย่างเท่าเท่าเทียมกัน ไม่มี การแบ่งแยกเพศ อายุ ศาสนา หรือเชื้อชาติ พร้อมสนับสนุนโอกาสให้บุคลากรจากทุกกลุ่มธุรกิจทั่วโลกได้แสดงศักยภาพ ความคิดสร้างสรรค์ในการค้นคว้าวิจัย การประดิษฐ์ หรือต่อยอดงานนวัตกรรมที่สร้างประโยชน์ในการขับเคลื่อนประเทศเข้าสู่ยุค 5.0 เพื่อให้เครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นองค์กรที่สามารถเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งในทุกมิติของความยั่งยืน

ก้าวสู่ศตวรรษใหม่อย่างมั่นคง เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังคงเปี่ยมด้วยพลังใจที่จะสร้างสรรค์ธุรกิจบนพื้นฐานของความชื่อสัตย์ สุจริต กตัญญู สร้างความเชื่อถือไว้วางใจแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกลุ่มสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ในกิจการอันเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ควบคู่กับการดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ด้วยปณิธานที่จะเป็นองค์กรคุณธรรมที่สร้างคุณค่า เพื่อส่งต่ออนาคตความยั่งยืนให้กับประเทศชาติ สังคม และองค์กรต่อไป

"ความยั่งยืน" เป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้องค์กรเติบโตและก้าวไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็ง

ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่เต็มไปด้วยความท้าทายและโอกาสใหม่ ๆ เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้กำหนดดทิศทางและยุทธศาสตร์การเติบโตสู่ยุคอุตสาหกรรมที่ล้ำหน้า ด้วยการพัฒนาและใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีติจิทัลที่ทันสมัยในการพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่องตามแนวทางปฏิบัติของ "ค่านิยมองค์กร 6 ประการ" ที่มุ่งเน้นการสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติและประชาชนในทุก ๆ ประเทศที่เครือฯ เข้าไปลงทุนด้วย "ความชื่อสัตย์และมีคุณธรรม" อันสร้างความไว้วางใจและประโยชน์ต่อผู้มีส่วนร่วมตลอดห่วงโซ่คุณค่ามากว่าหนึ่งศตวรรษ

ด้วยความตระหนักรู้และเข้าใจในความท้าทายต่าง ๆ ของโลกในปัจจุบัน เครือเจริญโภคภัณฑ์ให้ความสำคัญกับการสร้างความมั่นคงทางอาหารเพื่อการเข้าถึงที่เพียงพอสำหรับทุกคนและการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อรักษาสมดุลตามธรรมชาติของสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิต อีกทั้งการสร้างบุคลากรรุ่นใหม่ที่ดีและเก่งมาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจด้วยความยั่งยืนจากรุ่นสู่รุ่น เครือเจริญโภคภัณฑ์จึงได้ประกาศเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2573 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2593 เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจของเราเข้าสู่เศรษฐกิจสีเขียว และร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีให้กับประชาคมโลก

ทั้งนี้ เป้าหมายที่ตั้งไว้จะสำเร็จได้ด้วยความร่วมมือร่วมใจของบุคลากรและผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนตลอดห่วงโซ่คุณค่า ขอขอขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงทางบวก ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมตลอดมา และขอให้เราทุกคนมีความมุ่งมั่นในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนในทุกด้านเช่นนี้เพื่อก้าวสู่เป้าหมายความยั่งยืนร่วมกันและสร้างวันพรุ่งนี้ที่ที่ดีกว่าให้กับโลกของเรา

ปี 2566 ที่ผ่านมาต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน สิ่งที่ทั่วโลกให้ความสำคัญสูงสุด 3 เรื่อง และเป็นเรื่องที่ทุนจากนานาประเทศให้ความสำคัญมากด้วยเช่นกัน คือ 1. การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (Digitalization) 2. การลดภาวะโลกร้อน (Decarbonization) 3. การสร้างความสมดุลในภาวะโลกแบ่งขั้ว (Deglobalization) ซึ่งในบทบาทของภาคเอกชนการปรับตัวท่ามกลางความท้าทายในหลายด้านที่ส่งผลกระทบต่อโลก เป็นสิ่งที่องค์กรต้องสร้างการมีส่วนร่วมจากหลายภาคส่วนไม่เพียงแค่องค์กรใดองค์กรหนึ่ง แต่การตอบโจทย์ให้ครบทุกมิติทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ต้องร่วมมือกันตลออดห่วงโซ่คุณค่า และมีหลายเรื่องที่ต้องเชื่อมโยงคนรุ่นใหม่ และภาคการศึกษา เช่นเดียวกันกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่มีเป้าหมายความยั่งยืนที่ชัดเจน ครอบคลุมทั้ง 3 ด้านของ ESG แต่การ ขับเคลื่อนเครือฯ เน้นย้ำเรื่องการสร้างผู้นำที่มีมิติของความยั่งยืนการเปิดเวทีให้คนรุ่นใหม่ ตอบโจทย์เป้าหมายความยั่งยืน SDGs และการเชื่อมโยงตลาด และมีการใช้เทคโนโลยีมาตอบโจทย์ไม่เพียงแค่เทคโนโลยีดิจิทัล แต่ยังครอบคลุมถึงบล็อคเชน การใช้เทคโนโลยีดาวเทียมโดรนในภาคการเกษตร การเข้าถึงทุน การลดความเหลื่อมล้ำ การตรวจสอบย้อนกลับ ล้วนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและสุดท้าย สิ่งที่จะเกิดขึ้นหากทำได้ครบถ้วนคือ สังคมแห่งภูมิปัญญาที่ยั่งยืน (Sustainable Intelligence) ที่จะทำให้องค์กรเกิดความยั่งยืนและทันสมัยต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบัน

สำหรับเครือเจริญโกคภัณฑ์นั้น เรายังเดินหน้าสู่เป้าหมายความยั่งยืนในปี 2573 โดยกำหนดเป้าหมายใหญ่ครอบคลุมทั้ง 3 มิติของความยั่งยืนได้แก่ 1. การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ หรือ Net Zero 2. การลดการเกิดขยะของเสียสู่หลุมฝังกลบให้เป็นศูนย์หรือ Zero Waste to Landfill 3. การลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญและเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของเรา

นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญมากขึ้นกับประเด็นเรื่องการปกป้องและฟื้นฟูระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ เนื่องจากการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ อาจทำให้ผลผลิตของระบบนิเวศลดลง และลดความสามารถในการรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติต่าง ๆ จึงถือเป็นอีกภารกิจที่เราต้องประสานความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ในการฟื้นฟูระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ

เรามุ่งหวังให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งนี้ ในทุกเป้าหมายสำคัญของเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลดการปล่อยก๊าชเรือนกระจกการลดการเกิดขยะของเสียสู่หลุมฝังกลบ และการลดความเหลื่อมล้ำ ทางสังคม เราจะขับเคลื่อนอย่างเต็มที่ และจะมีการบูรณาการความร่วมมือกับคู่ค้าและพันธมิตรธุรกิจตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อก้าวไปให้ถึงเป้าหมายที่กำหนด รวมถึงจะสร้างความร่วมมือกับประชาคมโลกเพื่อแก้ไขปัญหาและความท้าทายเหล่านี้ไปด้วยกัน

ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีก้าวล้ำอย่างรวดเร็ว แต่ปรากฏว่าการเข้าถึงข้อมูลและเทคโนโลยีเป็นไปตามพื้นที่และความสามารถทางเศรษฐกิจจึงเกิดความไม่เท่าเทียมกันในเรื่องนี้ ช่องว่างทางสังคมจึงขยายออกมากขึ้นและกลายเป็นปัญหาแพร่กระจายไปในหลายประเทศทั่วโลก สำหรับเครือเจริญโภคภัณฑ์นั้นมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหานี้ ด้วยการเน้นไปที่การศึกษาและการพัฒนาทักษะแก่เยาวชน เพื่อเสริมสร้างสังคมที่ยั่งยืนและเข้มแข็งขึ้นอย่างสมดุล

สำหรับผลการดำเนินงานตามเป้าหมายความยั่งยืน ปี 2573 ของเรามีทั้งที่เป็นไปตามแผนงาน ล่าช้ากว่าแผนงาน และก้าวหน้าเกินแผนงาน ซึ่งเราจะติดตามประเด็นที่ล่าช้ากว่าแผนงานอย่างใกล้ชิดเพื่อที่จะปรับปรุง พัฒนา ให้สามารถเดินหน้าไปสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้

ท้ายที่สุด ผมเห็นว่าท่ามกลางความท้าทายและวิกฤตต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นผู้บริหารและพนักงานถือเป็นพลังสำคัญที่ทำให้องค์กรขับเคลื่อนฝ้าด่านพายุแห่งการเปลี่ยนแปลงมาได้ ขอขอบคุณทุกคนที่ทุ่มเทกำลังกายและใจให้กับองค์กรเพื่อความยั่งยืนในทุกมิติ และขอขอบคุณผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนที่เชื่อมั่นในการดำเนินงานของเรา เรามุ่งมั่นที่จะทำมากกว่าเดิม เพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้นให้กับรุ่นต่อ ๆ ไป